อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เป็นอุทยานที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดของประเทศไทยมีพื้นที่ถึง 2,915 ตารางกิโลเมตร หรือ 1.8 ล้านไร่ ในเขตอำเภอแก่งกระจานอำเภอหนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี และอำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ยังคงสภาพเป็นป่าดงดิบตามธรรมชาติที่สมบูรณ์และมีความหลาก หลายทางชีวภาพสูงมากแห่งหนึ่ง ได้รับการประกาศให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2524 โดย กำหนดพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำ และป่าเหนือเขื่อนแก่งกระจานเป็นเขตอุทยานฯ เป็นต้นน้ำลำธารของแม่น้ำหลายสาย พื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานฯ เป็นภูเขาสลับซับซ้อนอยู่ในเทือกเขาตะนาวศรี สภาพภูมิประเทศเป็นป่าดิบชื้นยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานฯ คือยอดเขางะงันนิกยวงตองอยู่ในเขตรอยต่อประเทศพม่าและไทย มีความสูง 1,513 เมตร รองลงมาคือยอดเขาพะเนินทุ่งซึ่งมีความสูง 1,207 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จากสันเขื่อนแก่งกระจานมีถนนเลียบออกมาทางซ้ายมือเป็นระยะทาง 3 กิโลเมตรถึงที่ทำการอุทยานฯ

สถานที่น่าสนใจภายในอุทยานฯ

ทะเลสาบ มีเนื้อที่ประมาณ45 ตารางกิโลเมตร มีเกาะกลางแม่น้ำอยู่มากมายหลายเกาะ นักท่องเที่ยวที่ต้องการจะล่องเรือชมทิวทัศน์ เพื่อพักผ่อนหรือตกปลาน้ำจืดในทะเลสาบ ก็สามารถเช่าเรือได้ที่ร้านอาหารหรือชมรมเรือที่อยู่บริเวณที่ทำการ อุทยานฯ หรือที่บ้านท่าเรือใกล้เขื่อนแก่งกระจาน ราคา500 - 700 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง สามารถแวะชมเกาะพลับพลาหรือเกาะในหลวง สะพานสลิงไหว้พระที่เกาะโสม
เขาพะเนินทุ่ง เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของ อุทยานฯในเขตประเทศไทยอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 50 กิโลเมตร เป็นภูเขาที่มีระดับความสูง 1,207 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางบริเวณโดยรอบเป็นป่าดิบเขา มีสัตว์ป่าชุกชุมทิวทัศน์งดงาม สามารถเห็นทะเลหมอกในช่วงฤดูฝนต่อฤดู หนาว มีจุดชมวิวที่สวยงามบริเวณกม.30 กม. 33 และ กม.36 โดยบริเวณกม.30 เป็น พะเนินทุ่งแคมป์ มีบริการร้านค้าและจุดกางเต็นท์พัก แรม กม.33 เป็นลานชมวิว มีห้องน้ำบริการ ส่วน กม.36 เป็นจุดชมวิวที่ใกล้ชิดทะเลหมอกการเดินทางขึ้นเขาพะเนินทุ่งควรใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเนื่องจากเป็นทางดินสูงชันบางช่วงข้ามผ่าน ลำธาร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปกลับในวันเดียวหรืออาจพักค้างแรมที่พะเนินทุ่งแค้มป์ 1 คืนก็ได้ ติดต่อรถ เจ้าหน้าที่นำทางอาหารและเต็นท์สำหรับพักค้างแรมได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของอุทยานฯ หรือที่รีสอร์ทบริเวณแก่งกระจาน เนื่องจากถนนค่อนข้างแคบ อุทยานฯ จึงได้กำหนดเวลาในการขึ้น-ลง คือ เวลาขึ้นช่วงเช้าเวลา 05.00-07.30 น. ช่วงบ่ายเวลา 13.00-15.00 น. เวลาลง ช่วงเช้าเวลา9.00-10.00 น. ช่วงบ่ายเวลา 16.00-17.00 น. สำหรับผู้ที่ต้องการจะขึ้นเขาพะเนินทุ่งต้องกรอกใบอนุญาตผ่านทางที่ด่านตรวจเขาสามยอดซึ่งอยู่ระหว่างทางขึ้นเขา โดยเสียค่าธรรมเนียม คนละ 40 บาท ค่านำรถยนต์เข้าพะเนินทุ่งคันละ 30 บาท ค่า เช่ารถปิคอัพขึ้นเขาพะเนินทุ่งไปกลับวันเดียวประมาณ 1,400-1,500 บาท หากพักค้างแรมและรับกลับในวันรุ่งขึ้นคิดราคา 2,000 บาท
หมายเหตุเนื่องจากในช่วงฤดูฝน เส้นทางจากแค้มป์บ้านกร่าง-เขาพะเนินทุ่งไม่สะดวกอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ นักท่องเที่ยว จึงมีกำหนดปิดการท่องเที่ยว เฉพาะบริเวณบ้านกร่างและเขาพะเนินทุ่งในระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม - 31 ตุลาคม ของทุกปีเพื่อความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว และเปิดโอกาสให้ธรรมชาติได้มีโอกาสฟื้นตัว
น้ำตกทอทิพย์ อยู่ห่างจากเขาพะเนินทุ่ง 15 กิโลเมตร สามารถเดินทางโดยรถยนต์ และเดินทางเท้าเข้าถึงตัวน้ำตกประมาณ 3 กิโลเมตร ไป กลับเดิน6 กิโลเมตร มีความสูง 9 ชั้น ชั้นที่ 5 เป็นชั้นที่สวยที่สุดแต่ละชั้นสวยงามแปลก ตา สภาพโดยรอบเป็นป่าไม้ร่มรื่น ทั้งนี้การเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ลึกเข้าไปในผืนป่า ควรขอคำแนะนำและคนนำทางจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก่อน นอกจากนี้ ควรใช้รถยนต์ที่มีกำลังเครื่องดีเพราะเส้นทางผ่านหุบเขาลาดชัน
เส้นทางดูนก– ผีเสื้อจะ เริ่มจากที่กิโลเมตรศูนย์ คือบริเวณด่านตรวจเขาสามยอดถึงกิโลเมตรที่ 18 จะพบผีเสื้อได้ตามสองข้างทางหรือตามโป่งดินระหว่าง กิโลเมตรที่ 10-12 และจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถดูนก ได้คือ บริเวณตั้งแต่อ่างเก็บน้ำห้วยสามยอดเลยด่านตรวจมาไม่ไกล ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกน้ำนานาชนิด ส่วนเส้นทางศึกษาธรรมชาตินั้นนับตั้งแต่กิโลเมตรที่ 18 ขึ้นไป และบริเวณกิโลเมตรที่18-27 อาจจะพบเห็นนกกระลิงเขียดหางหนามซึ่งเป็นนกที่พบใน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่เดียวในประเทศไทย
แค้มป์บ้านกร่าง เป็นจุดพักค้างแรมกางเต็นท์สำหรับผู้สนใจดูนกและผีเสื้อเนื่องจากมีอากาศเย็นสบาย อยู่บริเวณกม.15 มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ซึ่งเป็นป่าเบญจพรรณและป่าดิบแล้ง ไม้ที่พบมากคือไม้ตะเคียนทอง ไม้ยาง ไม้มะค่าโมง ไม้หอมหรือไม้กฤษณา และเป็นป่าที่ชุ่มชื้นจึงมีเฟิร์น กระโถนฤาษี หนุมาน หวายขึ้นอย่างสมบูรณ์และยังมีสัตว์ป่ามากมายเช่น ช้างป่า กระทิง วัวแดง เก้ง กวางหมีและสัตว์ป่าสงวน เช่น เลียงผา เก้งหม้อ สมเสร็จ และแมวลายหินอ่อน รวมทั้งผีเสื้อมากกว่า150 ชนิดให้ ศึกษา โดยเฉพาะในหน้าแล้งจะเห็นฝูงผีเสื้อลงไปกินดินโป่งเป็นจำนวนมาก และประมาณเดือนกุมภาพันธ์-มิถุนายน จะสามารถพบเห็นนกหลายชนิดที่กำลังสร้างรัง วางไข่เลี้ยงลูกอ่อน เช่น นกกก นกกาฮังซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของป่าดงดิบ
บริเวณบ้านกร่างมีสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง คือ
น้ำตกปราณบุรี มี 5 ชั้น เป็นน้ำตกเล็ก ๆ อยู่ห่างจากที่ทำการหน่วยพิทักษ์ฯกจ.4 ประมาณ 7 กิโลเมตร
น้ำตกแม่สะเลียงมี 3 ชั้น เป็นน้ำตกสายเล็ก ๆ ซึ่งต้องใช้เวลาในการเดินทาง 3 วัน 2 คืน รอบ ๆน้ำตกยังเป็นป่าที่สมบูรณ์ร่มรื่น
ถ้ำหัวช้าง อยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์ฯกจ.4 ไป ทางทิศตะวันออก 1 กิโลเมตร ระยะทางเดินเท้าเข้าถ้ำประมาณ 200 เมตรเป็นถ้ำหินปูน ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยลักษณะคล้ายหัวกระโหลกช้าง
ถ้ำเขาปะการังอยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์ฯ กจ. ๔ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ๓ กิโลเมตร ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยสวยงาม
เขาปะการัง เป็นภูเขาหินปูนสีเทาอมน้ำเงินมีหน้าผาให้ชมทิวทัศน์ที่สวยงามประกอบด้วย ป่าไม้เขียวขจีและภูเขาสลับซับซ้อน

ค่าเข้าชมอุทยานฯ คนไทย ผู้ใหญ่ คนละ 40 บาท เด็ก คนละ 20 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ คนละ 200 บาทเด็ก คนละ 100 บาท

สิ่งอำนวยความสะดวก
อุทยานมีบ้านพัก 18 หลัง บริเวณที่ทำการฯและริมอ่างเก็บน้ำแก่งกระจานซึ่งต้องติดต่อล่วงหน้าที่แผนก จองบ้านพักอุทยานฯที่กรุงเทพฯนักท่องเที่ยวสามารถกางเต็นท์ได้บริเวณริมอ่าง เก็บน้ำ ข้างที่ทำการอุทยานฯกางเต็นท์ได้ 200 หลัง บริเวณบ้านกร่างแคมป์ (กม.15) กางเต็นท์ได้ 100 หลังและพะเนินทุ่งแคมป์ กางเต็นท์ได้ 60 หลัง นอกจากนี้ บริเวณภายนอกอุทยานฯมีรีสอร์ทให้บริการหลายแห่ง ทั้งในอำเภอแก่งกระจาน และอำเภอท่ายางส่วนใหญ่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเพชร
สามารถติดต่อจองบ้านพักในอุทยานฯ ได้ที่
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โทร. 0 2562 0760 หรือทางเว็บไซต์www.dnp.go.thหรือต้องการข้อมูล เพิ่มเติมติดต่อศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานโทร. 0 3245 9293
กำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2551 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชได้ออกประกาศกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเข้าไปท่องเที่ยวใน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ดังนั้น ก่อนการเข้าไปท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาตินักท่องเที่ยวควรตรวจสอบข้อมูล ก่อนเดินทางที่ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โทร. 0 3245 9293 ระหว่าง 08.00-16.30 น.

การเดินทาง
รถยนต์ จากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 35 ถึงอำเภอปากท่อจังหวัดราชบุรี จากนั้นใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านแยกเข้าตัวเมืองเพชรบุรีจะถึงสี่แยกท่ายาง เลี้ยวขวาเข้าอำเภอท่ายาง แล้ววิ่งไปตามถนนเลียบคลองชลประทานตามทางหลวงหมายเลข 3499ระยะ ทางประมาณ 30 กิโลเมตร ก็จะถึงอำเภอแก่งกระจานจากปากทางเข้าอุทยานฯ อีก 4 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานฯ
รถโดยสารประจำทาง จะมีรถสายกรุงเทพฯ-ท่ายาง ลงที่ตลาดท่ายางจากนั้นต่อรถสองแถวไปตลาดแก่งกระจาน และต่อรถรับจ้างหรือจักรยานยนต์ไปอีก 4 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานฯ หรือใช้บริการรถตู้จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ฝั่งราชวิถี) ราคาคนละ 180-200 บาท ไปที่ตลาดแก่งกระจาน และต่อรถรับจ้างอีก 4 กิโลเมตรไป ยังที่ทำการอุทยานฯ

ข้อมูลจาก: thai.tourismthailand.org
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...